Welcome to "Thai Woman Beauty Secret website : แหล่งรวมเรื่องราวดี ๆ สำหรับผู้หญิงยุคใหม่

Thursday, February 18, 2016

วิธีทำให้หน้าใส ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว

ทุกวันนี้ผิวของเราโดนทำร้ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด หรือมลภาวะต่างๆ ถึงเวลา เพิ่มความสดใสคืนสู่ผิวกันแล้วนะจ๊ะ ของหนุ่มสาวที่อยากหน้าใสสวยเด้ง ฟังทางนี้ เราจะแนะนำกลยุทธ์ที่จะดำเนินการให้หน้าขาวใส มาฝากกัน

สำหรับเครื่องสำอางค์ที่เป็นไวท์เทนนิ่ง ที่มันขาว มันขาวแป้งค่ะ ผสมแป้งลงในเนื้อครีม ดีไม่ดี ไปอุดตันรูขุมขน สิวจะถามหากันเสียเปล่าๆ ควรใช้เอสเซนส์บำรุงผิวบ้าง ช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื่น แล้วอย่าไปคิดว่า ทาวันนี้ พรุ่งนี้จะลุกขึ้นมาปิ๊งปั๊ง ของแบบนี้มันต้องใช้ Time แต่เชื่อเถอะว่ามันดีกับผิวคุณแน่ในระยะยาว อย่างน้อยผิวคุณก็แข็งแรง ไม่เป็นริ้วรอยและจุดด่างดำสะดวกสบาย เพราะผิวหน้าเป็นผิวที่อยู่นอกร่มผ้า สัมผัสปะทะ กับแดด กับลม และมลภาวะตามตรง ก็คงต้องบำรุงกันหน่อยนะคะ สำหรับผู้ที่ต้องออกแดดบ้าง อธิบายว่าช่วงกลางวันให้ Purchase หาครีมกันแดดมาทากัน ไม่ต้อง Purchase แพงมาก เลือกสัก SPF 20-30 กำลังดี ลองไปเลือกหาดู มีหลายประเภทหลายแบรนด์ในตลาด

นำเสนอไปเบื้องต้นแล้วมาดูจุดสำคัญ กันเลยของเคล็ดลับหน้าใส

1.คุณจะต้องนอนไม่เกิน 4 ทุ่ม พักผ่อนให้เพียงพอ ข้อแรกละเลยไม่ได้ค่ะ อย่านอนดึก

2.ให้ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง มากสุด 3 ครั้ง เพราะจะทำให้หน้าคุณบางลง เมื่อหน้าคุณบางหน้าคุณจะอ่อนแอ แพ้ง่ายและสะดวกทำให้เป็นสิวได้ง่ายกว่าที่คาดไว้ แต่มีบางคนเค้าเถียงว่าถ้าไม่ล้างหน้า อย่างต่อเนื่องจะทำให้หน้ามัน(สำหรับบางคนที่หน้ามันง่ายและสะดวก)แล้วสิวจะขึ้น มีขั้นตอนการแก้คือให้ใช้แนวทางทาแป้งอย่างต่อเนื่องค่ะ หน้าคุณจะไม่มันแต่ถ้าคุณแพ้ แป้งละก็ให้ใช้ดินสอพองผสมกับน้ำมะนาว(ดีจริงขอบอก)โบ๊ะหน้าไว้ถ้ามันแห้งอย่าทำซ้ำค่ะวันละ 1 ครั้งพอ เพื่อไม่ให้หน้ามัน

3.ควรออกกำลังกายด้วยวันละ 1 ครั้ง นานเท่าไหร่แล้วแต่ ประมาน 30 นาที ก็พอ เมื่อคุณออกกำลังหายเสร็จ อย่าพึ่งล้างหน้าโดยเด็ดขาด ถ้าคุณทำ มันจะก่อให้เกิดฝ้าขึ้นได้ เพราะหน้าคุณกำลังร้อนอยู่เจอน้ำเย็น จะทำให้ใบหน้าของคุณเสียได้และขึ้นฝ้า

4.รับประทานอาหารให้ครบตามหลัก 5 หมู่ และ ดื่มน้ำขาวสะอาด

5.ถ้าสิวขึ้นก็อย่าแกะ ปล่อยไว้ เดี๋ยวก็ยุบเอง ใช้โฟมล้างหน้าสูตรดูแลให้ดีขึ้นสิว หลังล้างหน้าก็เช็ดด้วยโทนเนอร์ด้วย เพราะทำให้สะอาดหน้าอย่างเดียวมันไม่ขาวสะอาดพอหรอกค่ะ

6.ไม่ควรเครียดมากเกินไป ควรให้ความรู้สึกของท่านอยู่ในอารมณ์ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะจากการตรวจสอบจะพบว่า ผู้ที่มีการแสดงออกดี มักเป็นผู้ที่มีใบหน้าแจ่มใส และ สดใสกว่า

ลองดูนะค่ะอยากผิวหน้าใส ได้ผลยังไงบอกกันด้วย แล้ววันหลังจะเอาเคล็ดวิชาการบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใสมาบอกกันค่ะ


Read More »

Tuesday, February 2, 2016

Klaire Anti Pollution Essence

Klaire Anti Pollution Essence

Anti Pollution เอสเซนส์บำรุงผิวเข้มข้นจากประเทศญี่ปุ่น สารสกัดจากธรรมชาติที่ดีที่สุด


ส่วนประกอบหลักสำคัญใน Klaire Anti Pollution Essence เอสเซนส์บำรุงผิวสูตรเข้มข้น

SCHIZOSAC CHAROMYCES POMBE EXTRACT 
( ชิโสแซคคาโรไมซิส) “ช่วยฟื้นคืนความชุ่มชื่น รู้สึกถึงความยืดหยุ่นผิวดูเปล่งปลั่งและสม่ำเสมอยิ่งขึ้นทุกวัน ค้นพบที่ประเทศสเปน สารสกัดที่ได้จากการ “หมักปม” องุ่นแดงด้วยยีนส์สกุล Schizosaccharomyces ที่อุณหภูมิต่ำ (25 C) เป็นพิเศษ เมื่อเปรียบเทียบกับ หมักบ่มยีสต์ปกติ (30-35 C )

ARABIAN COTTON CELL CULTURE 
 ได้รับการพิสูจน์และยอมรับ ประสิทธิภาพในการปกป้อง และฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากการทำลายของแสงแดดมลภาวะ, ความเครียด รวมทั้งยังทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ค้นพบที่ทะเลทรายอาหรับ ทะเลทรายซาฮาล่า สเต็มเซลล์ ต้นกำเนิดของพืชคอตต้อน ที่เจริญเติบโต ในบริเวณพื้นที่เแห้งแล้ง สามารถดำรงชีวิตอยู่ในทะเลทรายได้ยาวนาน

MACA ROOT 
 ปรับโครงสร้างผิวชั้นในให้แข็งแรง ผิวเปล่งประกาย ช่วยกระตุ้นฟื้นฟูการทำงานของ ผิวที่ดูร่วงโรยกว่าวัย ให้กลับมาดูสดใสอีกครั้ง ค้นพบที่ประเทศเปรู แหล่งกำเนิดจากประเทศเปรู รากโสมโบราณ ที่ถูกนำไปใช้เป็นยาสมุนไพร อาหาร ในราชวงศ์กษัตริย์ เป็นพืชที่ทนทานต่อสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรุนแรง

AQUALICIA 
 อะควาริเซีย ช่วยปรับสมดุน้ำในผิวคืนความชุ่มชื่น ได้รับรางวัล Golden prize Green Ingredient award จาก In-cosmetic 2015 ด้านสารประกอบจากธรรมชาติยอดเยียม ค้นพบที่ ทวีปแอฟริกา สารสกัดจากเมล็ด Acacia Macrostachya ประเทศบูร์กินา ฟาโซ พืชท้องถิ่นที่ใกล้สูญพันธ์ ได้รับการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจและสังคมให้คนในท้องถิ่น มีอาชีพ และร่วมกันรักษาทรัพยากร

ARABIAN COTTON CELL CULTURE 
 เซลล์ต้นกำเนิดของพืชที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ในทะเลทรายที่แห้งแล้งได้ยาวนาน ซึ่งมีสารประกอบที่สำคัญจากธรรมชาติที่ได้รับการพิสูจน์และยอมรับแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการปกป้อง และฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากการทำลายของแสงแดด, มลภาวะ, ความเครียด รวมทั้งยังทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น

MUCOPLEX 
 คุณค่าจากสารสกัดของเมล็ดแฟลกซ์ หรือเมล็ดลินิน, เมล็ดเจี่ย และ โปรตีนจากถั่ว ซึ่งเป็นสารให้ความชุ่มชื่นตามธรรมชาติที่อยู่ในผิว ที่สามารถช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวและคงความกระจ่างใส ช่วยให้ผิวดูกระชับ และเรียบเนียน

BIFIDA FERMENT LYSATE
  สารสกัดยีสต์ที่ช่วยเสริมกระบวนการฟื้นฟูบำรุงผิวตามธรรมชาติ และช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของผิวที่แห้งกร้าน หมองคล้ำ คืนผิวสวยสุขภาพดีและเปล่งประกายความสดใส

GALACTOMYCES FERMENT FILTRATE 
 สารสกัดยีสต์ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวที่อ่อนล้าให้กลับมาดูดีมีชีวิตชีวา เปล่งปลั่งขึ้น ผิวดูสุขภาพดี

HYDROLYZED SODIUM HYALURONATE
  นวัตกรรมครั้งแรกของโลกที่ใช้เอนไซม์ Hyaluronase ในกระบวนการผลิต Oligo Sodium Hyaluronate ให้มีความบริสุทธิ์ และโมเลกุลขนาดเล็กที่สุด เพื่อช่วยแทรกซึมเข้าเติมเต็มความชุ่มชื่นในชั้นผิวได้อย่างเต็มที่

SODIUM HYALURONATE 
 ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นอย่างเต็มประสิทธิภาพ ให้ผิวดูนุ่มชุ่มชื่นได้ยาวนาน

ได้รับการควบคุมการผลิตและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับมาตรฐาน GMP ได้รับการพิสูจน์โดยสำนักเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข 
เลขที่ใบรับ 10-1-5843566

Q: Klaire – Anti-Pollution Essence ใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงเห็นผล?
A: ครั้งแรกที่ใช้จะสัมผัสได้ถึงความนุ่มผิวดูชุ่มชื้น และเมื่อใช้ต่อเนื่องเพียงแค่ 1-2 สัปดาห์ เผยให้เห็นผลลัพธ์ผิวขาว กระจ่างใส ตึงกระชับ


Klaire ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว รีวิวจากผู้ใช้จริง มาเติมน้ำให้กับผิวหน้าด้วเอสเซนส์สูตรเข้มข้น สารสกัดจากธรรมชาติ คัดสรรจากทั่วทุกมุมโลก ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของสาวๆ ลองแล้วคุณจะพบการเปลี่ยนแปลงของผิวภายใน 2 สัปดาห์

" ผิวหน้ากระชับขึ้น กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี (เราใช้คู่กับ moisturizer น้าา)
และที่สำคัญคือมันช่วยเรื่องความกระจ่างใสด้วยนิดนึง คือ ไม่ได้ทำให้ขาวนะคะ แต่รุสึกว่าสีผิวมันมีการกระจายตัวที่ดี ^^ "

สนใจสินค้าติดต่อ  Line ID : diva2you
                         Tel : 0616636828
Read More »

Thursday, January 7, 2016

วิธีลดความอ้วนอย่างถูกวิธี ทำยังไง

คนอ้วนที่อยากผอมเร็วๆ มักจะใช้วิธีเดินเข้าคลีนิกลดความอ้วน ใช้ยาลดความอ้วน ซึ่งก็ได้รับผลที่ตามมาอย่างแสนสาหัส เพราะผอมลงจริงๆ ทันตาเห็นแต่ก็จะผอมอยู่ไม่นานแล้วก็จะกลับมาอ้วนอีกเหมือนเดิมหรืออ้วนกว่า เดิมด้วย นั่นเป็นเพราะแก้ปัญหาไม่ถูกวิธี แก้ที่ปลายเหตุ ไม่ได้แก้กันที่ต้นเหตุ ซึ่งก็คือนิสัยการกินนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นหลายๆ คนยังได้รับผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจตามมาอีกมากมาย ซึ่งไม่คุ้มค่ากันเลย



เรากลับมาแก้ไขปัญหากันที่ต้นเหตุกันดีกว่าค่ะ ก็คือแก้ไขนิสัยการกินของเราเนี่ยแหละค่ะ หยุด! อย่าเพิ่งบอกว่ามันยาก ทำไม่ได้นะคะ เรามีเคล็ดลับที่จะช่วยคุณให้สามารถแก้ไขนิสัยการกินนี้ได้ค่ะ ซึ่งต้องใช้ 3 ส่วนร่วมกันก็คือ ให้กำลังใจตนเองค่ะ รู้วิธีกินอย่างถูกต้อง และออกกำลังกายค่ะ

ให้กำลังใจตนเอง

ต้องรีบทำลายวงจร ยิ่งกิน-ยิ่งอ้วน-ยิ่งอ้วน-ยิ่งกิน ให้ได้เสียก่อนค่ะ ขั้นแรก เมื่อคุณตื่นเช้ามาให้ส่องกระจกบานใหญ่ๆ เลยค่ะ สำรวจรูปร่างตัวเอง แล้วให้สัญญากับตัวเองเลยว่าฉันจะต้องมีรูปร่างที่ดีขึ้นให้ได้ บางคนอาจนำรูปดารานางแบบที่สวยๆ มาติดไว้เพื่อเป็นกำลังใจก็ได้ค่ะ ว่าฉันจะต้องมีรูปร่างสวยแบบนี้ให้ได้ หรือบางคนอาจจะเอารูปป้าอ้วนๆ แก่ๆ ที่เดินก็ไม่ค่อยจะไหว ใส่เสื้อผ้าก็โทรมๆ เก่าๆ มาเป็นอุทาหรณ์ให้ตัวเองว่าฉันจะต้องไม่เป็นแบบนี้เด็ดขาดก็ได้นะคะ แล้วแต่ใครใช้แบบไหนได้ผล มาถึงขั้นตอนที่ 2 คือหลังจากมืออาหารทุกครั้งมักจะเกิดอยากทานอาหารขึ้นมาอีก (ปกติของคนอ้วนล่ะค่ะ) ให้ถามตนเองว่า “จำเป็นต้องกินอีกจริงๆ หรือ” “ไม่กินได้มั้ย” ถ้าทำได้บ่อยๆ ต่อไปจะเกิดความกระดากใจและเลิกกินไปได้เองในที่สุด เพราะการกินจุบจิบหลังอาหารเนี่ยแหละ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อ้วนง่ายที่สุด เพราะการกินจุบจิบนั้นจะเป็นพลังงานส่วนเกินซึ่งถูกนำไปสะสมเป็นไขมัน ทันที!! “ทุกๆ 250 แคลอรี่ที่ร่างกายได้รับเกินหรือเท่ากับพลังงานจากมันฝรั่งทอด 1 ถุง หรือไอศกรีม 1 ก้อน หรือช็อกโกแลต 1 แท่ง จะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม 34 กรัม 1 เดือนจะเพิ่ม 1 กิโลกรัม” ดังนั้นต้องหาทางลดอาหารว่างหลังมื้ออาหารให้ได้ ขั้นตอนที่ 3 คือกำหนดจิตใจว่า “น้อยเหมือนมาก” ทุกครั้งที่ตักอาหารเข้าปากให้คิดในใจเดือนตนเองให้ได้ว่าอาหารคำนี้จะกลาย เป็นคำใหญ่ ทำให้อ้วนขึ้นได้ในเวลาไม่นาน แล้วเคี้ยวอาหารคำนั้น (ทุกคำ) อย่างช้าๆ (ทำให้อิ่มเร็วและทานได้น้อยลงด้วย) ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะรู้สึกว่าการทานอาหารเป็นเรื่องที่ยากขึ้น ขั้นตอนสุดท้าย คือมาปลอบใจท้ายวัน เพราะว่าเพียงวันเดียว ยังไม่สามารถผอมลงได้อย่างทันตาเห็นหรอก หลายคนก็จะท้อแท้ ดังนั้น จะต้องไปยืนหน้ากระจกเช่นเดียวกับตอนเช้า และพูดว่า “น้ำหนักตัวลดไม่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว จะต้องค่อยๆ ลด พรุ่งนี้ต้องพยายามต่อไปอีกเรื่อยๆ น้ำหนักก็จะลงในที่สุด” ทำเช่นนี้เพื่อป้องกันการท้อแท้เลิกลดอาหารเสียก่อนนั่นเอง ในขั้นตอนการให้กำลังใจตนเองสำคัญที่สุดเพราะการลดน้ำหนักนี้จะสำเร็จได้ หรือไม่ขึ้นกับตัวเราเองเป็นสำคัญ ถ้าเรายอมแพ้ไปซะก่อนก็จะไม่สำเร็จอย่างแน่นอน

เรียนรู้วิธีกินอย่างถูกต้อง

เมื่อจิตใจมั่นคงแล้วจะต้องเรียนรู้ว่าอาหารใดให้ประโยชน์กับเราบ้าง หลายคนเชื่อว่าการไม่ทานอาหารที่มีไขมัน ไม่ทานกะทิ แต่ทานแต่ผักกับโยเกิร์ตจะทำให้ผอมลงได้ แต่ก็ยังไม่เห้นลดได้ซะที ซ้ำยังสุขภาพแย่ลงกว่าเดิมด้วย เพราะนั่นเป็นการเข้าใจผิดๆ ค่ะ การรับประทานอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งน้อยเกินไปจะมีผลทำให้สัดส่วนของอาหาร อีกอย่างมากไปโดยอัตโมัติ (เพราะร่างกายต้องการสารอาหารที่มีสัดส่วนพอเหมาะในการทำปฏิกิริยาในร่างกาย หากมีส่วนใดที่มากไปก็จะเหลือเก็บเป็นไขมันได้) การทานอาหารที่ถูกต้องคือทานให้ครบ 5 หมู่ จะขาดหมู่ใดหมู่หนึ่งไม่ได้ การรับประทานมากเพียงหมู่เดียวไม่ใช้วิธีที่ถูกต้อง บางคนทานแต่ผัก หรือธัญพืชอย่างเดียวโดยลดการทานอาหารประเภทอื่นหมด วิธีที่ถูกต้องคือ ลดปริมาณอาหารแต่ละมื้อลงแต่ยังคงทานครบทุกส่วน วิธีนี้จะทำให้น้ำหนักลดและร่างกายไม่อ่อนแอด้วย และพฤติกรรมอีกอย่างที่ต้องเปลี่ยนก็คือ อาหารเช้าควรเป็นมื้อหนัก ไม่ใช่อาหารเย็น มื้อเย็นควรเป็นอาหารเบาๆ และห้ามทานมื้อดึกเป็นอันขาด!!! ถ้าติดของขบเคี้ยวให้เตรียมเป็นแครอท กะหล่ำปลี แตงกวา หั่นป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ตู้เย็นไว้ทานแทนพวกมันฝรั่งทอดดีกว่า

การออกกำลังกาย

หลายคนหาข้ออ้างสารพัดว่าไม่มีเวลา ไม่มีที่จะออกกำลังกาย เหล่านี้เป็นข้องอ้างที่ปิดบังความจริงที่ว่า “ขี้เกียจ” ออกกำลังกายนั่นเอง เพราะแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ลองมาเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ดีกว่า ลองออกกำลังกายที่สนุกๆ ด้วยการเปิดเพลงไปด้วยแบบเต้นแอโรบิกก็ได้ เดี๋ยวนี้มีท่าเต้นออกกำลังกายที่ทำให้สนุกสนานมากมายเช่น การออกกำลังกายกึ่งๆ การฝึกการต่อสู้ หรือ Combat หรือแบบที่แตกแขนงออกมาจกโยคะก็มีเช่น ชิบอล เป็นต้น ลองหาคอร์สการออกกำลังกายที่สนุกๆ ใหม่ๆ ทันสมัย และลองหาเพื่อนไปเล่นด้วยกันจะได้ผลกว่าเล่นคนเดียวด้วยค่ะ
ทั้ง 3 สิ่งนี้จะต้องประสานกันให้ได้ ทำอย่างสม่ำเสมอไปพร้อมๆ กัน  เมื่อน้ำหนักตัวลดลงแล้วก็จะต้องคงน้ำหนักไว้เช่นนี้ไม่ให้เพิ่มขึ้นมาอีก ระยะหนึ่ง (เป็นเดือนค่ะยิ่งอายุเยอะเท่าไหร่ยิ่งนานค่ะ เพราะร่างกายยืดหยุ่นไม่ไดีเท่าเด็กๆ) ให้ร่างกายได้ปรับตัวอยู่เช่นนั้น แล้วจึงหยุดได้ (แต่ยังใช้นิสัยการกินอันใหม่นะคะ) แต่ถ้าหากว่ากลับไปตามใจปากเหมือนเดิม น้ำหนักก็เพิ่มขึ้นได้อีกไม่ยากเช่นกันค่ะ

ที่มา : ladytip.com
Read More »

Friday, January 1, 2016

รีวิวแป้ง Babalah UV 2WAY SPF20 PA++ แป้งบาบาล่าห์ แป้งแม่มด

มีเพื่อน ๆ บล็อกเกอร์ ถามว่า เคยใช้แป้งบาบาร่ามั้ยคะ
ได้เราก็งงไม่เคยใช้ เลยไปหาในเน็ต เห็นกระแสในเน็ตแรงมาก เห็นดาราใช้เยอะเลยอยากลอง ก็เลยเอาไปเมาท์กับเพื่อน ๆ ไป ว่ามันอ่านออกเสียงว่า บาบาลาห์ หรือ บาบาร่า กันแน่ ? และในที่สุดก็มีโอกาสได้มาลอง กรี๊ดดด เลยหยิบมารีวิวในรีวิวนี้ซะเลยค่ะ

แป้ง Babalah UV Two Way SPF 20 ( แป้งบาบาร่า ยูวีทูเวย์เอสพีเอฟยี่สิบ) หรือแป้งแม่มด
ตอนแรกเห็นชื่อแป้ง Babalah เราก็อ่านออกเสียงว่า "บาบาล่าห์" จะช้าอยู่ทำไม?ไปดูกันเลย



แป้ง Babalah UV Two Way SPF 20 ( แป้งบาบาร่า ยูวีทูเวย์เอสพีเอฟยี่สิบ) เนื้อแป้งซิลิโคน เป็นแป้งทาหน้าผสมรองพื้น ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นเนื้อซิลิโคน และมีคุณสมบัติข้างกล่องว่า

1.    เนื้อแป้งละเอียดบางเบาดุจใยไหม
2.    เกลี่ยง่ายติดทนนานไม่เป็นคราบ
3.    กันน้ำ 100% และมีครีมรองพื้นในตัว
4.    ป้องกันแสง UVA และ UVB มีค่า SPF 20 PA++


บรรจุภัณฑ์ / Packaging
แป้งพัฟบาบาร่า ตลับพลาสติกกลมสีดำเงา ตลับด้านบนสกรีนรูปแม่มดขี่ไม้กวาดมีดาวฟรุ้งฟริ้ง พร้อมโลโก้ Babalah ค่ะ ใส่มาในกล่องกระดาษสีม่วงอีกทีมีเทคนิคการทาแป้งมาด้วย

ตัวตลับแป้ง Babalah จะเป็นสองชั้นค่ะชั้นบนเป็นแป้ง ส่วนด้านล่างมีพัฟฟองน้ำมาด้วย ฟองน้ำเนื้อบางเบาฟู ๆ สีขาวมีแถบสำหรับสอดนิ้วสีม่วง ๆ ส่วนตลับชั้นล่างมีเจาะรูระบายอากาศด้วย แต่อย่าลืมแกะสติ๊กเกอร์ออกก่อน

เนื้อสัมผัส / Texture
แป้งบาบาร่า เป็นแป้งผสมรองพื้น อัดแข็งมาในตลับ มีลายปั๊มนูนโลโก้ Bahbalah ลายแม่มดมาด้วยค่ะ แป้งสีเนื้อ ๆ  กลาง ๆ มีอันเดอร์โทนสีเหลืองเหมาะกับคนไทยส่วนใหญ่ เนื้อแป้งเนียนละเอียดดีถึงดีมาก โดยที่สามารถเกลี่ยบนใบหน้าได้ง่ายดีค่ะ

ระดับการปกปิด / Coverage
แป้ง Babalah UV 2WAY SPF20 PA++ สามารถเลือกการปกปิดเองได้
ถ้าต้องการความบางเบาแตะแป้งแล้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า แล้วถ้าต้องการปกปิดจุดบกพร่องเช่นใต้ตา รอยสิวใช้วิธีกดย้ำ ๆ ค่ะ หากถ้าต้องการปกปิดเนียนกริบ สามารถนำพัฟไปชุบน้ำให้หมาด ๆ แล้วแตะแป้ง ก็จะได้การปกปิดที่เพิ่มขึ้นค่ะ

เนื้อแป้งเนียนละเอียดมาก กลมกลืนไปกับผิวค่ะ ในรูปคือทาทับกัน 3 ครั้งก็ยังเนียนบาง แทบไม่เห็นเนื้อแป้งเพราะเนียนกลมกลืนไปกับผิว แต่แป้งปกปิดเส้นเลือด ความไม่เรียบเนียนของสีผิวได้ดีเลย

ทดสอบการกันน้ำ Waterproof
ถ้าเหงื่อออกหรือโดนน้ำ น้ำจะไม่ค่อยเกาะผิวค่ะ และแป้งก็จะไม่ละลาย แค่ซับหน้าเบา ๆ ก็เนียนแล้ว แถมยิ่งเหงื่อออกยิ่งดีด้วยเพราะแป้งจะยิ่งกลืนกับผิว ทำให้ผิวดูโกลว์สวย


ใช้พัฟกดแป้ง เกลี่ยบาง ๆ ก่อนให้ทั่วหน้า แล้วค่อย ๆ แตะแป้งและกดย้ำบริเวณที่ต้องการปกปิด แค่นี้ก็สวยเนียนกริบ

มาดูความแตกต่างหน้าสองข้างกันชัด ๆ ค่ะ



สิ่งที่ดิฉันลองแล้วชอบมากคือ
1. เนื้อแป้งเนียนละเอียดบางเบา แต่สามารถเพิ่มระดับการปกปิดได้ตามต้องการ ตั้งแต่บางเบาหรือปกปิดขั้นสุด ทาโดยการใช้น้ำ หรือไม่ใช้น้ำก็ได้
2. สีเข้ากับผิวขาวเหลืองพอดีเลย
3. พัฟที่ให้มานิ่มดี
4. กันน้ำกันเหงื่อ ย่ิงเหงื่อซึม แป้งยิ่งสวยค่ะ

ข้อสังเกตุ
1. มีให้เลือกสีเดียว เหมาะสำหรับผิวขาวเหลือง ถึงผิวสีเนื้อกลาง ๆ ค่ะ  แต่สาวผิวเข้ม ผิวคล้ำอาจไม่เหมาะ
2. เท่าที่ทราบยังไม่มีขายตามร้าน ต้องสั่งออนไลน์ค่ะ
3. อยากให้กล่องระบุ ส่วนผสมสำคัญมาด้วย (Ingredients) จะได้วิเคราะห์ส่วนผสมได้ง่ายขึ้นค่ะ

บทสรุป
แป้งบาบาร่า เป็นแป้งผสมรองพื้น เนื้อแป้งซิลิโค ที่มีเนื้อเนียนละเอียดผสมกันแดด ช่วยให้สวยเนียนกริบ ไม่ว่าจะชอบแบบบาง หรือแบบปกปิดทำได้หมดค่ะ ใครกำลังหาแป้งผสมรองพื้นราคา 500-ึ700 ที่สีออกเนื้อ ๆ โทนเหลืองจะต้องชอบ ลองดูนะคะ
Read More »

Sunday, December 27, 2015

วิธีแต่งหน้าแก้ไขรูปหน้าด้วยบลัชออน

วันนี้มาแนะนำการแต่งหน้าซึ่งถือว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง อันจะช่วยให้ใบหน้าของเรามีสีสันสวยงาม ดังนั้นการแต่งหน้าเพื่อลบเลือนจุดบกพร่องบนใบหน้า เป็นการช่วยให้คุณเพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้นเลยทีเดียวค่ะ

วันนี้เป็นวิธีแต่งหน้าแก้ไขรูปหน้าด้วยบลัชออน

เทคนิคแต่งหน้าแก้ไขรูปหน้าด้วยบลัชออนและคล่องตัวแล้ว ยังต้องทำให้ใบหน้าดูมีสีสันและช่วยปกปิดจุดบกพร่องที่อยู่บนใบหน้าให้ตัวเองดูมั่นใจมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเราเลยมีวิธีการแต่งหน้าโดยการแก้ไขรูปหน้าด้วยบลัชออนที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน เพื่อให้ใบหน้าของคุณผู้หญิงนั้นดูดี และมั่นใจมากยิ่งขึ้นค่ะ

  

สาวหน้าเหลี่ยม ปัดบลัชออนโทนสดใสลงบนแก้ม โดยเริ่มจากจุดสูงสุดของแก้ม แล้วลากแปรงให้เลยขึ้นไปจนถึงขมับ จากนั้นก็ปัดจากคางขึ้นไปถึงบริเวณใต้ใบหู ก็จะช่วยให้ขากรรไกรสี่เหลี่ยมดูโค้งมนขึ้นได้

สาวหน้ากลม อย่าปัดบลัชออนลงบนจุดสูงสุดของแก้ม เพราะจะยิ่งเน้นให้เห็นหน้ากลมๆ ชัดขึ้น แต่ปัดให้สูงขึ้นอีกนิดนึงก็จะช่วยพรางตาให้ใบหน้าดูยาวขึ้นได้ จากนั้นใช้บรอนเซอร์หรือบลัชออนโทนสีน้ำตาลอมชมพูแรเงาบริเวณใต้โหนกแก้มเรื่อยลงไปจนถึงขากรรไกร

สาวหน้ายาว ปัดบลัชออนลงบนจุดสูงสุดของแก้ม แล้วลากแปรงออกไปจนถึงใบหู เพื่อสร้างภาพลวงตาให้ใบหน้าดูกว้างขึ้น จากนั้นพรางให้ใบหน้าดูสั้นลง โดยปัดบลัชออนผ่านกลางหน้าผากและตามรูปคาง

เทคนิคการแต่งหน้าเหล่านี้จะช่วยให้คุณผู้หญิงช่วยอำพรางจุดบกพร่องของตัวเอง ให้เป็นสาวมั่นใจ ได้ทุกวันๆ เลยค่ะ


source : 108health.com
Read More »

Wednesday, December 23, 2015

เทคนิคการแต่งตาให้สวยบาดใจ


เทคนิควิธีการแต่งตาให้บาดใจนั้นมีหลากหลายรูปแบบซึ่งแต่ละรูปแบบนั้น ก็จะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่สไตล์การแต่งตัว หรือแต่งตาอย่างไรให้เข้ากับใบหน้าของแต่ละคน สำหรับวันนี้เรามีวิธีการแต่งตาให้ดูกลมสวย มาบอกกัน อุปกรณ์ความสวยของเราก็มีไม่เยอะหรอกค่ะ ก็มีดินสอเขียนคิ้ว, ชุดแปรงแต่งดวงตา เช่น พูกันปัดคิ้ว พู่กันทาอายแชโดว์, ดินสอเขียนขอบตา, อายไลเนอร์, คอตตอนบัด
http://thaiwomansecret.blogspot.com

    เริ่มแรกด้วยการพิจารณา ดูว่าดวงตาของคุณเล็ก ใหญ่ ชิดกัน หรือว่าห่างกันแค่ไหน จากนั้นก็อยู่ที่คุณว่าจะแต่งตาเพื่อสบตาปิ๊ง ชายหนุ่มเล่น หรือเพื่อให้ตัวเองดูสวยขึ้น

    ถ้าคุณมีดวงตาเล็ก ให้ใช้สีอายแชโดว์สีเข้มไล้บริเวณหางตาแล้วค่อยเบจสีให้อ่อนลงไปทางหัวตา แล้วใช้ดินสอเขียนขอบตาสีดำเขียนให้ชิดโคนขนตาให้มากที่สุด โดยเริ่มเขียนจากบริเวณหางตามาจรดหัวตาหาก เส้นดินสอยังเลอะไม่สม่ำเสมอ ให้คุณใช้คอตตอนบัดเกลี่ยให้เนียน แล้วใช้พู่กันปลายเล็กทาอายแชโดว์สีเดียวกับดินสอทาทับลงไปบนเส้นดินสออีก ครั้ง เพื่อลดความแข็งกระด้างของเส้นดินสอ ส่วนขอบตาล่างใช้ดินสอเขียน ขอบตาที่มีสีอ่อนกว่าดินสอเขียนขอบตาบน โดยเริ่มเขียนตั้งแต่ หางตา (ให้ชิดกับหางตาบน) มาในระยะ 2/3 ของตาแล้วหยุดพักไว้ แล้วใช้พู่กันปลายแหลมเล็กทาสีอายแชโดว์สีเดียวกับดินสอเขียนขอบตา ทาทับเส้นดินสอที่เขียไว้อีกครั้ง

    ใช้ที่ดัดขนตาตัดขนตา เริ่มตั้งแต่โคนขนตา กลางขนตา และปลายขนตา แล้วใช้มาสคาร่าสีดำหรือน้ำตาล ถ้าปัดขนตาบนให้คุณมองต่ำๆแล้วจับมาสคาร่าเป็นแนวนอน ปัดจากโคนขนตาด้านล่างไปจนถึงปลายขนตาปัด ซ้ำไปซ้ำมาจนขนตาคุณดูยาว ส่วนขนตาล่างให้คุณตั้งมาสคาร่าขึ้น แล้วปัดมาสคาร่าทั่วทุกเส้นขนตา หากมาสคาร่าจับกันเป็นก้อน ใช้แปรงปัดคิ้วที่มีลักษณะคล้ายหวี หวีเส้นขนตาให้แยกออกจากกัน

  ถ้าคุณมีผิวมัน ควรใช้มาสคาร่าและอายไลเนอร์ชนิดกันน้ำ ไม่ควรใช้อายแชโดว์ชนิดครีมเพราะจะทำให้ดวงตาคุณเลอะเทอะ

    ไม่ควรเขียน เส้นอายไลเนอร์เส้นหน้าและใหญ่สำหรับคนตาเล็ก เพราะจะยิ่งเน้นดวงตาคุณให้ดูเล็กมายิ่งขึ้น

    ถ้าคุณเป็นสาวตากลมโต ควรใช้สีอายแชโดว์สีกลางและสีอ่อน อย่าเน้นสีอายแชโดว์ให้ดำเข้มมากเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ดวงตาคุณดูดุ

    สำหรับผู้หญิงตาห่าง ควรพยายามทาสีอายแชโดว์สีเข้มให้ค่อนมาทางหัวตา และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สีอ่อนบริเวณหัวตา เพราะจะทำให้ตาคุณดูห่างมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้หญิงตาโต เมื่อทาสีอายแชโดว์เนียนสวยที่เปลือกตาแล้ว ใช้ดินสอเขียนขอบตาสีเข้มเขียนเส้นบางๆ แล้วปัดมาสคาร่าเลยก็ได้ แต่ถ้าอยากใช้อายไลเนอร์ ควรเขียนเส้นให้เล็กและบางมากที่สุด

    ถ้าคุณมีดวงตาที่ชิดกันมาก ควรเน้นอายแชโดว์สีอ่อนมากๆบริเวณหัวตา แล้วเน้นสีเข้มๆที่หางตา ข้อห้ามสำหรับสาวตาชิด ไม่ควรเน้นการแรเงาบริเวณข้างจมูกให้เด่นเพราะจะยิ่งทำให้ตาดูชิด

    การเขียนคิ้ว ถ้าคุณมีคิ้วที่สวยได้รูปอยู่แล้ว ก็เพียงแต่ใช้พู่กันปัดคิ้วทาสีอายแชโดว์สีน้ำตาลหรือใกล้เคียงกับสีคิ้วคุณ ปัดเบาๆให้ทั่วขนคิ้วหรือถ้าต้องการออกงานกลางคืน ก็ใช้ดินสอเขียนคิ้วสีอ่อนกว่าคิ้ว

    เขียนบริเวณฐานล่างของคิ้วไปตามโครงของคิ้วจริง แล้วใช้พู่กันปัดคิ้วทาสีอายแชโดว์สีใกล้เคียงกับดินสอเขียนคิ้ว ระบายทับให้ทั่วขนคิ้วอีกครั้ง คุณจะมีคิ้วที่สวยคมได้รูปแต่ไม่แข็งกระด้าง

    ถ้าคุณมีขนคิ้วที่หนา ไม่ได้รูป ควรกันคิ้วให้ได้รูป โดยกันบริเวณขนคิ้วด้านล่างสุดก่อน จากด้านหางคิ้วมาสู่บริเวณหัวคิ้ว ถ้ายังรกอยู่ให้ค่อยๆกันแนวขนคิ้วให้สูงขึ้นมาอีกนิด ทำซ้ำเหมือนเดิมจนขนคิ้ว คุณโก่งสวยสมใจ

    ถ้าขนคิ้วไม่เป็นระเบียบ หลังจากเขียนคิ้วเสร็จแล้ว ใช้มาสคาร่าเจลใส ปัดทับขึ้นไปอีกครั้งจะทำให้ขนคิ้วดูมีระเบียบสวยงาม


Read More »
Hot Promotion

Image1

Image1